วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ยาเมือง

เมื่อวานอ่านหนังสือและบันทึกเสียงใ้ห้คนตาบอด เป็นกวีของเจ้าฟ้ากุ้ง ว่าด้วยนิราศธารทองแดงและนิราทพระบาท ที่สะดุดใจคือเรื่องงูเหลือม ท่านนิพนท์ว่างูสามารถกินสัตว์ใหญ่ได้เป็นตัวมีอยู่ครั้งหนึ่งกินแล้วต้องรอย่อยหลายวันที่ใต้ต้นไผ่ ไผ่ดันออกหน่อใหม่แทงทะลุงูขาดครึ่ง (งูเคลื่อนที่ไม่ได้เฉพาะกินเยอะเกิน)  เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟังตอนกินข้าว  แม่บอกว่าทางเหนือ งูเหลือมจะกลืนสัตว์เป็นตัวพอหลายๆวันแล้วก็จะคายกระดูกสัตว์ออกมา ชาวบ้านจะเก็บเอากระดูกงูไปเข้ายาเมือง โหไม่เคยได้ยินเลยนะคะเนี่ย ต้องไปถามหมอเมืองแล้วล่ะว่าเอาไปเข้ายาอะไร รักษาโรคอะไรบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะสูญหายไปตามกาลเวลา  แม่เล่าให้ฟังว่า งูเหลือมเป็นสัตว์รักสงบ มักอาศัยอยู่ตามพงหญ้ารกๆ ขดตัวเป็นวงกลม เรียกว่า งูตกบ่วง (ภาษาเหนือ) รอคอยสัตว์ที่มาเหยียบโดน แล้วก็จะรัดสัตว์จนหมดสติและกลืนเข้าไปทั้งตัว ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องนี้จะมาเล่าสู่กันฟัง รวมทั้งความเชื่อและการรักษาแบบคนเมืองด้วยค่ะ
 การรักษาโรคของคนเมือง
ตอนนี้เท่าที่จะได้ว่าการรักษาแบบเมืองที่คุณย่าเคยสอนน่ะ เวลาปวดหัว จะเอาข้าวนึ่งมาคลึงให้เป็นก้อนกลมๆ เอาไปถูบริเวณขมับ หรือหัวบริเวณที่ปวด แล้วท่องคาถาว่า "อุ่งนะอุ่งนัง มักคะลังสังขา" ท่องคาถาใส่ในข้าวก้อนนั้นแล้วคลึงบริเวณที่ปวดทุกครั้งค่ะ  ตอนเด็กๆ น่ะ ย่าเคยสอนหลายคาถานะคะ แต่จำได้แค่นี้อ่ะค่ะ น่าโทษตัวเองจริงๆ วันหลังจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่นะคะ


        เพื่อความสะดวกแก่ผู้ที่ติดตามเรื่องยาเมืองและการรักษาของคนเมือง(คนเหนือ)  ได้ย้ายไปไว้ในอีกเว็บหนึ่งชื่อเว็บ chiangmai magaznine ส่วน link คือ http://informationchiangmai.blogspot.com/ ค่ะ 
ท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้โดยคลิกที่นี่ 
สาเหตุที่ต้องย้าย เนื่องจากเว็บนี้จะใช้รวบรวมเรื่องเกี่ยวกับวัดของอำเภอเมืองโดยเฉพาะ  ส่วนวัดในอำเภออื่นและเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับเชียงใหม่จะรวมไว้ที่เดียวที่เว็บ
chiangmai magaznine เพื่อให้เป็นจุดรวมสำหรับผู้ที่สนใจวัดในอำเภออื่น แต่จะทะยอยลงเนื่องจากต้องรอให้อำเภอเมืองครบก่อนค่ะ อาจช้าหน่อยนะคะเนื่องจากต้องทำงานประจำบางวันก็ยุ่งมาก ที่จริงบางวัดก็ถ่ายไปแล้วแต่ไม่สามารถลงได้เนื่องจากต้องคัดเลือกและตัดต่อภาพเพื่อลงเว็บไซต์ซึ่งต้องใช้เวลานิดหน่อยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น