Methang templeวัด เมธัง
This temple Surmise wes built in 2095 BE. The old name is Changlan temple, this temple is an old temple and started to built stupa fist there. The follower time NanMetang and NangKaew donated land and money to built Metang temple located at northwest next to the old temple. There is still left the trace of the old temple a bit or lost. Almost building in this temple restored as new style (I think).
Composed by Professor Vithul Liaorungruang and etc.
Project: provide travel route architect of history.
10/1/49 BE.
Source:http://www.chiangmainews.co.th
Remark: Nan mean a word call a man in Thailand that use to ordained monk, Nang mead Mrs.
For me I think this temple attract with an arch gate of this temple and all sculpture design and decorate with strange style as the other temple it’s half with classic sculpture just like at Sign temple or Jedyot temple that show only pure figure just like man or woman sculpture but in this temple it’s mix the man with animal in the same figure..very strange. The new style also use in the other building there just like in a bell hall, and some sculptures I think it was built in the same time of the gate.
สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2095 เดิมชื่อ วัดช่างลาน เป็นวัดเก่าแก่โดยเริ่มสร้างสถูปก่อน ต่อมา หนานเมธังกับนางแก้ว ได้บริจาคที่และเงินเพื่อสร้างวัดใหม่ถัดจากที่เดิมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อสร้างเสร็จจึงได้ชื่อว่าวัดเมธัง ส่วนวัดช่างลานเดิมได้ร้างไปคงเหลือร่องรอยไว้เพียงเล็กน้อย สถาปัตยกรรมประกอบด้วย วิหาร อุโบสถ และหอไตรได้รับการบูรณะใหม่
Source:http://www.chiangmainews.co.th
บทความโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรืองและคณะ
โครงการเผยแพร่เส้นทางท่องเที่ยวสถาปัตยกรรมเชิงประวัติศาสตร์
10/1/49
Source:http://www.chiangmainews.co.th
บทความโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรืองและคณะ
โครงการเผยแพร่เส้นทางท่องเที่ยวสถาปัตยกรรมเชิงประวัติศาสตร์
10/1/49
สำหรับ ฉันฉันคิดว่าวัดนี้มีเสน่ห์จากซุ้มประตูหน้าวัดที่ไม่เหมือนใคร มีลายปูนปั้นที่แปลกจริงๆ เป็นลายปูนปั้นยุคใหม่ที่ผสมเอาลายแบบโบราณ อย่างที่เคยเห็นในวัดพระสิงห์หรือวัดเจ็ดยอด มาปรับเป็นแบบใหม่ อย่างลวดลายปูนปั้นที่เราเคยเห็นกันมานั้น รูปปั้นคน หรือสัตว์จะแยกกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่วัดนี้ เขาจะผสมผสานเอารูปปั้นตัวคนกับสัตว์ไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน จนบางครั้งต้องจ้องนานๆ จึงจะทราบได้ว่าตรงนี้มีสัตว์อยู่กับคนด้วย ฉันคิดว่าสิ่งปลูกสร้างอื่นที่ใช้ลายปูนปั้นในวัดนี้น่าจะสร้างยุคเดียวกัน กับประตูวัด อย่างเช่นหอระฆัง เป็นต้น
แต่ สิ่งที่ทำให้ฉันขนลุกคือนรสิงห์รูปปั้นสองตัวขนาดใหญ่ ที่ฉันไม่เคยเห็นที่ใหนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน อย่างกับมีอะไร ทำให้ฉันรู้สึกว่าพวกมันมีชีวิต อาจเป็นจากสายตาที่มันมองหรือว่าเป็นเพราะตำแหน่งการจัดวางซึ่งวางบนพื้นดิน ตำแห่งเดียวกับที่เรายืนอยู่ก็ได้ เลยทำให้มันดูเหมือนมีชีวิต พวกมันอยู่หน้าประตูหอระฆังที่มีชื่อว่า สิทธิ วรคุณานุสรณ์ 7 พ.ค.2523 น่าจะเป็นวันสร้างนะคะ ไม่อยากจะบอกเลยว่าขนาดดูภาพก็ยังกลัวอยู่เลย เหมือนมันกำลังจ้องเราอยู่เลย
But the only thing that made me scare is a pair of sculpture of Norrasign in front of a Bell Hall. It’s a biggest norrasign that I have ever seen. It’s just like spell when you look at them just like they alive ‘cos it’s stair at you with big eyes same as human eyes. And stand at the floor at the position same as you. It stand in front of a door of the Bell Hall door name Sitti Vorrakananusorn and the date of the built is 7 May 2523 BE. (I’m still afraid though I’m watching its picture)
Remark: Norrasign mean a creature in imagination forest of Thailand well know is Himmapan forest. A human in half lion body. It’s always be head of human but body is lion.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น